Friday, June 5, 2009

งานกับความสุข3

ทำสวนก็ต้องการให้ต้นไม่เจริญเติบโต เรียก ฉันทะ
ทำสวนก็ต้องการเงิน เรียก ตัณหา


การทำงานอย่างหลังเป็นการขับไล่ความสุขหรือวิ่งไล่ความสุข เพราะเราจะมองและโหยหาความสุขที่อยู่ข้างหน้าตลอดเวลา


คนจำนวนมากมองความสุขไปที่ไหน ตอบว่ามองไปที่การได้เสพได้บริโภคตือ ตาได้ดูสิ่งสวยงาม หูได้ฟังเสียงไพเราะ จมูกได้ดมกลิ่นหอม ลิ้นได้ลิ้มรสอาหารที่เอร็ดอร่อย กายได้สมัผัสที่นุ่มนวล ใจได้คิดฝันในอารมณ์อยากได้อยากเสพที่เพลิดเพลิน คนเราที่ต้องการความสุข มักจะมองไปที่วัตถุและสิ่งบริโภคดังกล่าว แต่ถ้าเรามุ่งหาความสุขอยู่แค่สิ่งเหล่านี้ เราก็จะขึ้นอยู่กับวัตถุภายนอกโดยที่เราไม่เป็นตัวของตัวเอง หมดอิสระภาพ ยิ่งอยู่ไปในโลกนานๆ เราก็เอาชีวิตและคงามสุขไปฝากไว้กับสิ่งภายนอก

ผลที่ตามมาเราก็จะต้องมีปริมาณวัตถุเสพและบิรโถคมาขึ้นๆจึงจะมีความสุขได้
เรายังอยากใช้ชีวิตบนโลกนี้อยากมีความสุขไหม
งั้นเราก็ต้องมีอิสระภาพ ก็คือ การที่เรายังสามารถมีความสุขได้ด้วยตัวเองอยู่บ้าง หรือเป็นความสุขง่ายๆพอสมควร


ข้อสังเกตุเกตุคือ คนในยุคปัจจุบันเป็นสุขได้ยากขึ้นและยิ่งอยู่นานๆไปก็ยิ่งสุขได้ยากขึ้นๆ
กระทั่งเด็ก

ถ้าเราเก่งจริง เราอยู่บนโลกนานเข้า เราก็ยิ่งต้องเป็นคนที่สุขได้ง่ายขึ้น ถ้าเราถามตัวเองแล้วต้องตอบว่าสุขยาก นั่นก็หมายความว่าชีวิตเดินผิดทางแล้ว เราก็จะสูญเสียอิสระภาพลงไปทุกทีๆเพราะไม่เก่งจริง ถ้าเก่งจริงต้องเป็นคนที่สุขง่ายขึ้น

ถ้าข้าในก็สุขง่ายขึ้นและข้างนอกก็วัตถุหรือหาเงินเก่งขึ้นเราก็สุขสองทาง คนสว่นมากมักพัฒนาแต่ความสามารถหาสิ่งเสพภายนอก ทั้งที่หามาได้ แต่งในหมดความสามารถที่จะมีความสุข



เป็นอันว่า สิ่งที่เราจะต้องทำไห้ไดคือในตอนนี้ คือ ทำไห้การงานเป็นแหล่งที่มาของความสุขตลอดเวลาของเราให้ได้ นี่คือสิ่งท้าท้าย เพราะการทำงานทำการนเป็นชีวิตส่วนใหญของเรา ทำไม่ได้เราก็เป็นแบบเดียวก็คนส่วนใหญ่ เราก็ได้เห็นแล้วว่ามันไม่น่าอยู่เท่าไร

No comments:

Post a Comment